Showing 1–12 of 23 results

ยาฮอร์โมน

เมื่อเข้าสู่วัยทอง ไม่เฉพาะผู้หญิงเท่านั้น ผู้ชายก็เข้าได้ ยาฮอร์โมน เป็นหนึ่งในยาที่ขาดไม่ได้เลย แต่จริงๆแล้วยากลุ่มนี้ เราได้นำมาใช้กันตั้งแต่วัยรุ่นกันแล้วแต่เราอาจจะไม่ได้คิดว่ายานั้นคือยาฮอร์โมน โดยหนึ่งในกลุ่มนี้ นั้นก็คือ ยาคุมกำเนิด นั้นเอง และนอกจากนี้ยากลุ่มนี้ไม่ได้เป็นเพียงฮอร์โมนทดแทนเท่านั้น เรายังนำยากลุ่มนี้ไปใช้รักษาโรคอื่นๆ อีก เช่น โรคมะเร็ง โรคไทรอยด์ โดยยาในกลุ่มนี้ ก็ใช้วิธีการแบ่งได้หลายวิธี ตั้งแต่แบ่งตามเพศ หรือ แบ่งตามลักษณะการให้ยาที่เราจะพูดกันต่อไปในบทความนี้


ยาฮอร์โมนเพศหญิง

โดยยาฮอร์โมนในกลุ่มนี้ จะมีกลุ่มแยกย่อยลงไปอีก แต่ไม่ว่ากลุ่มไหน ยาฮอร์โมนในกลุ่มนี้ก็จะมี ส่วนประกอบของตัวยา Estradiol เป็นองค์ประกอบ โดยตัวยาสำคัญตัวนี้จะถูกออกแบบมาให้เหมือนกับฮอร์โมน Estrogen ของผู้หญิงตามธรรมชาติมากที่สุด และ ฮอร์โมนอีกตัวที่อาจมีเสริม คือ Progestin ที่เลียนแบบ Progesterone ในร่างกาย ซึ่งยาทีใส่ก็จะเป็นยาฮอร์โมน ที่อยู่ในกลุ่มยาคุมกำเนิด และ ยาฮอร์โมนทดแทน ที่เรากำลังจะพูดถึงต่อไป

ยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนเดียว

ยาคุมกำเนิดกลุ่มนี้จะเป็นฮอร์โมนกลุ่ม Progestin โดยส่วนใหญ่จะเป็นยาคุมกำเนิดฉุกเฉินเป็นส่วนใหญ่ โดยจะเป็นฮอร์โมน Levonorgestrel และ นอกจากนี้ยังมียาคุมกำเนิด สำหรับหญิงที่ให้นมบุตร ก็จะใช้ฮอร์โมนเดี่ยวเช่นกัน แต่จะใช้เป็นตัว Lynestrenol ยี่ห้อ (Exluton) และ Desogestrel ยี่ห้อ (Cerazette)

ยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนผสม

สำหรับยาคุมในกลุ่มนี้จะเป็นฮอร์โมน 2 กลุ่มที่เรากล่าวมาคือ Estradiol และ Progestin ผสมกันอยู่ในเม็ดเดียว โดยยาคุมกำเนิดประเภทนี้ก็จะมีการปรับเปลี่ยนขนาดของ Estradiol ไปตามแต่ละยี่ห้อ ยิ่งฮอร์โมนตัวนี้สูง ก็จะทำให้เสริมลักษณะของความเป็นหญิงได้เพิ่ม เช่น ผิวที่มีน้ำมีนวล ขนาดหน้าอก และลดการเกิดสิว แต่สิ่งที่ตามมาก็อาจจะทำให้คลื่นไส้อาเจียนได้ง่ายระหว่างทานยา

ส่วนฮอร์โมน Progestin ในยาคุมแต่ละยี่ห้อ ก็จะใส่แตกต่างกันไป โดยฮอร์โมนที่อยู่ในกลุ่มนี้ก็มีหลายตัว เช่น Drospirenone , Gestodene , Cyproterone acetate , Levonorgestrel โดยฮอร์โมนแต่ละตัวก็จะมีคุณสมบัติแตกต่างกันไป เช่น ทานแล้วไม่บวมน้ำ ช่วยลดฮอร์โมนเพศชาย ทำให้คุมสิว ผิวมันได้ดี

ยาฮอร์โมนทดแทน

ยากลุ่มนี้จะแตกต่างจากยาคุมกำเนิด โดยเราจะไม่แนะนำให้ซื้อใช้เองตามร้านขายยาทันทีเหมือนยาคุม แต่ควรได้รับการตรวจร่างกายเช็คร่างกายก่อน และ ประเมินอาการ ว่ามีความจำเป็นในการใช้ เช่น ระดับฮอร์โมนที่ต่ำ ภาวะกระดูกพรุน อาการวัยทองต่างๆ หรือ มีความเสี่ยงจากการใช้หรือไม่ เช่น โรคไขมันในเลือดสูง โรคหัวใจหลอดเลือด

ยาเลื่อนประจำเดือน

สำหรับยาเลื่อนประจำเดือนก็เป็นกลุ่มยาฮอร์โมนเช่นกัน โดยจะเป็นฮอร์โมนเดี่ยวกลุ่ม Progestin เช่นกันแต่ตัวยาก็จะแตกต่างจากยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน โดยจะใช้เป็นยาชื่อ Norethisterone.

ยาฮอร์โมนเพศชาย

ตัวยาฮอร์โมนสำหรับท่านชาย จะเป็นยาที่ใช้เสริมสำหรับชายสูงอายุ ที่เริ่มมีอาการวัยทอง ผู้ชายที่มีปัญหาในการผลิตฮอร์โมนเพศชาย นอกจากนี้ยังใช้กับนักกีฬาที่ต้องการใช้ฮอร์โมนเพศชายเพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อ และความอดทนในการออกกำลังกาย โดยยาในกลุ่มนี้ส่วนใหญ่ก็จะเป็นตัวยา Testosterone ไม่เพียงเท่านี้ยาฮอร์โมนสำหรับทานชายยังถูกนำมาใช้ในการคุมกำเนิดผู้ชายแล้วอีกด้วยในปัจจุบัน ที่เรากำลังพูดถึงในหัวข้อถัดไป

ยาเสริมฮอร์โมนท่านชาย

ยาเสริมฮอร์โมนท่านชายที่เรานิยมนำมาใช้ในท้องคลาด ก็จะมีตั้งแต่แบบกิน และ แบบฉีด โดยแบบกินจะมีตัวยาชื่อ Testosterone Undecanoate และ แบบฉีดจะใช้เป็นตัวยา Testosterone Enantate โดยยากลุ่มนี้เรามักจะเรียกอีกชื่อหนึ่งว่าเป็นยากลุ่ม Anabolic steroid ดังตัวอย่างรูปด้านล่าง

ยาคุมผู้ชาย

นับได้ว่าเป็นเรื่องที่ตื่นเต้นและฮือฮามากสำหรับยากลุ่มนี้ โดยยากลุ่มนี้ก็มีตั้งแต่ยากิน ยาฉีด รวมถึงยาแบบทาอีกด้วย เพียงแต่ยาในกลุ่มนี้ยังไม่ได้ถูกนำออกมาใช้ในท้องตลาด โดยยังอยู่ในขั้นตอนการทดลองความปลอดภัยในการใช้ในระยะเวลาที่ยาวนานอยู่ โดยแบบกิน จะเป็นยา Dimethandrolone Undecanoate หรือ DMAU แบบฉีด จะเป็นตัว norethisterone enanthate , Testosterone Enanthate (Testoviron) และ Testosterone Undecanoate ส่วนแบบทา จะเป็นยา Nestorone

ยาที่ถูกแบ่งตามวิธีการให้ยา

นอกจากนี้เรายังแบ่งยากลุ่มนี้ตามวิธีการใช้ยาได้อีกด้วย โดยทั้งฮอร์โมนเพศหญิงและชาย ก็จะมียาหลากหลายรูปแบบให้เลือกใช้ตามความสะดวกในการใช้และความเหมาะสม โดยในแต่ละแบบก็จะมีทั้งข้อดี และ ข้อเสีย แตกต่าง กันไป

ยาฮอร์โมนแบบกิน

จะเหมาะกับผู้ที่มีวินัยในการรับประทานยา ข้อดีของแบบรับประทานคือ ราคายาส่วนใหญ่จะถูกกว่าแบบอื่นๆ การควบคุมระดับฮอร์โมนในร่างกายจะทำได้ดีกว่า เช่น ยาคุมแบบรับประทาน จะกำหนดการมีรอบเดือนในแต่ละเดือนได้ดีกว่าแบบอื่นๆ แต่ข้อเสียคือ ต้องรับประทานต่อเนื่องทุกวัน หากลืมหรือทำเม็ดยาหายก็อาจทำให้ประสิทธิผลของการใช้ยาไม่ดี ซึ่งถ้าเป็นยาคุมก็อาจทำให้พลาดตั้งครรภ์ได้ หากกินต่อเนื่องระยะยาวตับอาจต้องทำงานหนักเพื่อขับยาออก

ยาแบบฉีด

รูปแบบยาฉีด จะเหมาะกับผู้ที่ลืมทานยาอยู่บ่อยๆ ประจำเดือนอาจจะไม่มาสำหรับผู้ที่ฉีดยาคุมประเภท 3 เดือนเข็ม และ สำหรับแม่ให้นมบุตรอาจจะน้ำให้น้ำนมแห้ง สำหรับบางราย อาจมีเลือดประจำเดือนออกกระปริดกระปอย ตึงคัดเต้านม แต่ข้อดีคือไม่ต้องมาทานยาทุกวันและลดความเสี่ยงในการลืมทานยา โดย ยาแบบฉีด ก็สะดวกกว่าโดยสามารถเลือกฉีดได้แบบ ทุกๆ 1 เดือน และ ทุกๆ 3 เดือน

ยาฮอร์โมนแบบแผ่นแปะ

ยาแบบแผ่นแปะ จะไม่ค่อยนิยมในกลุ่มคนในบ้านเรามากนัก เพราะหลายๆคนกังวลว่ามันจะได้ผลไม่เหมือนแบบอื่นๆ แต่จริงๆแล้วการใช้ยาฮอร์โมนคุมกำเนิดรูปแบบแผ่นแปะ สามารถคุมได้ 91-99% นอกจากนี้ยังเหมาะกับผู้ที่กลืนเม็ดยาลำบากและชอบลืมทานยาได้เป็นอย่างดี และไม่ต้องเจ็บตัวจากการฉีดยา หรือถ้าหากแพ้ยาหรือเกิดผลข้างเคียงจากยาก็สามารถดึงแผ่นแปะออกได้ทันที แต่ก็จะมีข้อควรระวังคือ แผ่นแปะอาจหลุดโดยไม่รู้ตัวระหว่างใช้ และทำให้เกิดการตั้งครรภ์ได้ หากเป็นแผ่นแปะชนิดคุมกำเนิด

ยาแบบทา

สำหรับรูปแบบทา ในบ้านเราจะใช้เป็นยาในกลุ่มฮอร์โมนทดแทนมากกว่าจะใช้เป็นรูปแบบยาคุมกำเนิด โดยการใช้มักจะใช้พร้อมกับไม้พาย ในการบีบยาเพื่อวัดปริมาณยาก่อนใช้ทา แต่การใช้ยาชนิดนี้ก็มีข้อควรระมัดระวังเช่นกัน โดยเราจะไม่ทายาบริเวณที่เป็นเต่านม หรือ ใกล้บริเวณจุดซ้อนเลน หรือ ผิวอ่อนบริเวณระหว่างขา

ฮอร์โมนแบบทา

ยาแบบฝังใต้ผิวหนัง

ยารูปแบบฝั่งสำหรับในเทศไทยอาจยังไม่เป็นที่นิยมมากนัก โดยส่วนใหญ่แล้วจะเป็นยาฮอร์โมนกลุ่มยาคุมมากกว่าฮอร์โมนทดแทน ที่ทำยาลักษณะนี้ออกมา โดยข้อดีของยาแบบนี้คือจะเหมาะสำหรับคนที่ต้องการใข้ยาเป็นระยะเวลายาวนานและมักชอบลืมทานยา ลืมใช้ยา โดยยาตัวนี้จะมีลักษณะเป็นกระเปาะบรรจุฮอร์โมนอยู่ และแพทย์จะทำการฝั่งยานี้เข้าไปยังใต้ผิวหนัง ตัวยาจะค่อยปลดปล่อย โดยยาคุมชนิดนี้หลังจากฝั่งแล้วจะอยู่ได้ประมาณ 3-5 ปีเลยที่เดียว และระหว่างฝั่ง จะไม่มีประจำเดือนมา โดยเราจะเริ่มฝั่งไม่เกิน 7 วัน นับจากวันแรกที่มีรอบเดือน

ยาฮอร์โมนแบบฝั่ง

สรุป

จากที่ได้พูดถึงยาฮอร์โมนไป เป็นข้อมูลเพียงส่วนหนึ่งของยากลุ่มนี้เท่านั้น โดยยาฮอร์โมนแต่ละตัวก็จะมีรายละเอียดการใช้แตกต่างกันไปบ้าง ซึ่งก่อนใช้ควรศึกษาวิธีการใช้และข้อควรระวังก่อนการใช้ ถ้าหากไม่แน่ใจก่อนใช้ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรต้ามร้านขายยาก่อนใช้ยาเพื่อจะได้ปลอดภัยจากการใช้ยาและลดโอกาสความผิดพลาดในการใช้กันนะ